6 กรกฎาคม 2557

อินเทอร์เน็ตกับการเพิ่มผลผลิต

อินเทอร์เน็ตกับการเพิ่มผลผลิต
          การสร้างผลิตผลและประสิทธิภาพในการทำงาน ที่ได้จากโซลูชันทางอินเทอร์เน็ตนั้น ต้องอาศัยความเข้าใจ และการวางยุทธศาสตร์ในการลงทุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งได้ส่งผลในการเพิ่มผลิตผลในการทำงานได้มากถึงสี่เท่า
เทคโนโลยีด้านระบบเครือข่ายยุคใหม่ ได้สร้างเครื่องมือในการสื่อสารที่มีความสำคัญ และจำเป็นอย่างมากในการดำเนินธุรกิจในปัจจุบัน ดังนั้นกระบวนการในการเลือก และการนำเครื่องมือที่เหมาะสมมาใช้งานนั้น เป็นสิ่งที่มีความซับซ้อน เนื่องจากว่าถ้าเกิดการผิดพลาดจาการเลือกสรรแล้ว อาจจะกระทบถึงกระบวนการทางธุรกิจ และความสับสนต่อเจ้าหน้าที่และพนักงานได้ เพราะฉะนั้นการวางยุทธศาสตร์ในการเพิ่มผลผลิต หรือ Productivity นั้นต้องมีการศึกษาอย่างถี่ถ้วน ว่าจะนำเอาเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ทางธุรกิจได้อย่างไร กับคำถามมากมาย เช่นจะเริ่มพัฒนาแอพพิเคชันสำหรับพนักงาน หรือจะพัฒนาแอพพิเคชันสำหรับบริการลูกค้าก่อนดี, ความสมดุลระหว่างการสร้างระบบที่มีความเสถียร และมีประสิทธิภาพกับความคุ้มค่าของการลงทุน, ทำอย่างไรที่จะแน่ใจได้ว่า ยุทธศาสตร์ในการใช้อินเทอร์เน็ต จะประสบความสำเร็จ ในขณะเดียวกันก็ต้องใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่มีอยู่ในปัจจุบันให้เต็มประสิทธิภาพ
          คำตอบสำหรับคำถามเหล่านี้ ต้องอาศัยองค์กรที่สามารถมองภาพที่ไกลกว่าแค่การตัดสินใจในการเลือกใช้เทคโนโลยี โดยได้อิงอยู่กับหลักการสี่ประการ อันได้แก่โครงสร้างของระบบเครือข่าย ควรที่จะเป็นระบบเปิด เพื่อที่จะรองรับการทำงานของแอพพิเคชันต่างๆ ในอนาคตได้ ซึ่งจะมีส่วนช่วยอย่างมากในการพัฒนาแอพพิเคชันใหม่ๆ อีกทั้งรับประกันได้ว่า สามารถเชื่อมต่อ และใช้งานร่วมกันกับพันธมิตรทางธุรกิจและลูกค้าได้ ในกรณีที่มีการใช้แอพพิเคชันร่วมกัน ประการที่สองคือการจัดอันดับของการลงทุน โดยควรที่จะให้ความสำคัญกับความคุ้มค่าของการลงทุน และผลตอบแทนในระยะเวลาที่เหมาะสม โดยโครงการที่สามารถคืนกำไรจากการใช้งานได้ในระยะเวลาอันสั้น ก็ควรที่จะอยู่ในอันดับต้นๆ ประการที่สามที่ต้องพิจารณาก็คือความง่ายในการนำมาใช้งาน สำหรับยุทธศาสตร์ในการนำอินเทอร์เน็ตมาเพิ่มผลผลิตของการทำงานนั้น จะดูกันที่ว่าเป็นการเพิ่มความซับซ้อน หรือลดความซับซ้อนของกระบวนการต่างๆ เช่นว่าระบบใหม่นี้ สามารถรวมเอาการสื่อสารด้านข้อมูลภาพและเสียง ไว้ในระบบเดียวกัน ซึ่งจะเป็นการลดต้นทุนในการดูแลระบบสามระบบที่แยกจากกันได้ และประการสุดท้ายคือ เลือกรูปแบบที่มีความคล่องตัวสูง หรือมีทางเลือกในการใช้งานมาก ทั้งนี้เพื่อที่ว่าจะสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็ว และคล่องตัวเพื่อให้ทันกับสภาวะการณ์ทางธุรกิจ และข้อดีอีกประการหนึ่งของการนำเทคโนโลยีด้านอินเทอร์เน็ตมาใช้งานก็คือ สามารถใช้งานได้ทั้งองค์กรขนาดเล็ก และองค์กรขนาดใหญ่ ซึ่งสำหรับองค์กรขนาดเล็กนั้น เทคโนโลยีเหล่านี้สามารถเติบโตไปพร้อมๆ กับธุรกิจของพวกเขา
การทำงานร่วมกันระหว่างระบบโครงสร้างด้านเครือข่าย และแอพพิเคชันที่จะช่วยเพิ่มผลผลิตของการทำงาน สามารถส่งผลต่อการเพิ่มผลผลิต และประสิทธิภาพของการทำงาน รวมถึงทำให้องค์กรทำธุรกิจได้อย่างมีกำไรมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ประโยชน์มากมายจากการเพิ่มผลผลิต อย่างเช่นความรวดเร็วในการให้บริการลูกค้า จะสร้างความพึงพอใจและความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าได้อย่างมาก ไม่ว่าขนาดของธุรกิจจะใหญ่หรือเล็ก การตัดสินใจในการนำโซลูชันด้านเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตมาใช้งาน จะสามารถช่วยให้เกิดคุณค่าในการเพิ่มประสิทธิภาพ และผลผลิตของการทำงานได้เป็นเท่าทวีคูณ
ภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบันที่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย และความผันแปรของตลาดหุ้น ทำให้หลายต่อหลายบริษัทตกอยู่ในภาวะที่ไม่สู้ดีนัก และต่างก็พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อที่จะสามารถดำเนินธุรกิจอยู่ต่อไปได้ เมื่อไม่นานมานี้ ได้มีบทความจากการให้สัมภาษณ์ของนายอลัน กรีนสแปน ที่ได้กล่าวถึงการเพิ่มประสิทธิภาพ และผลผลิตของพนักงานไว้ว่า มีการเติบโตขึ้นอย่างมาก ซึ่งเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงความจำเป็นในการเพิ่มผลผลิตของการทำงาน ในภาวะเศรษฐกิจเช่นนี้ สำหรับองค์กรต่างๆ ตัวอย่างในประเทศสหรัฐอเมริกานั้นได้พบว่า แนวโน้มเศรษฐกิจที่ค่อยๆ ปรับตัวในทางบวกนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มผลผลิตในการทำงาน และเมื่อผสานกับแผนการลดภาษีของภาครัฐ ได้ช่วยเสริมให้มีการขยายตัวทั้งในด้านรายได้ และการใช้จ่าย ซึ่งส่งผลให้มีการหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจที่ดีขึ้น
          ท่านผู้อ่านคงจะเห็นแล้วว่า การเพิ่มผลผลิตและประสิทธิภาพในกาทำงานนั้น ไม่เพียงแต่ช่วยให้องค์กรหรือบริษัทในการสร้างความได้เปรียบในเชิงแข่งขันเท่านั้น แต่เมื่อมองในภาพกว้างแล้ว ยังเป็นส่วนสำคัญในการพลิกฟื้นเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่งด้วย และนับเป็นเรื่องที่น่ายินดีสำหรับประเทศไทยเรา ที่หลายต่อหลายหน่วยงาน ได้มีการประกาศการเติบโตทางเศรษฐกิจของเราในแนวบวก ซึ่งแสดงถึงการเติบโต และส่งสัญญาณถึงความมีเสถียรภาพมากขึ้น และได้มีการคาดการณ์ว่า จะมีการเติบโตต่อเนื่องถึงปี 2546 นี้ด้วยซึ่งนับเป็นโชคดีของเรา ที่จะได้รับปีใหม่ด้วยแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจที่ดีขึ้น 
          ในขณะเดียวกันด้านประเทศเพื่อนบ้านของเราอย่างสิงคโปร์นั้น ได้ประสบปัญหากับการชลอตัวของเศรษฐกิจและ มีการคาดการณ์ว่า จะมีอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงงานที่ไม่มีความชำนาญงานเฉพาะด้านและ แรงงานผู้สูงอายุ ทั้งนี้เมื่อมองย้อนหลังไปจะเห็นว่าสิงคโปร์นั้นมีการเติบโตทางเศรษฐกิจมาโดยตลอด และแทบจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลยในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจที่ผ่านมา แต่แล้วเนื่องจากการถดถอยของเศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่น และสหรัฐอเมริกาในช่วง2 ปีที่ผ่านมา ได้ส่งผลให้กับประเทศสิงค์โปร์แล้ว ทั้งนี้ยังไม่รวมถึงการเปิดประเทศของจีน ที่ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกการค้าโลก และหลายต่อหลายบริษัทได้ย้ายฐานการผลิตไปยังประเทศจีน ที่มีค่าจ้างแรงงานและ ต้นทุนการผลิตที่ถูกกว่า
          บางทัศนะมองว่า การเข้ามาของประเทศจีนนั้นหลายท่านอาจจะกลัวมากเกินไปว่า จีนจะใช้กลยุทธ์ด้านราคารวมกับต้นทุนการผลิตที่ถูกกว่า มาเป็นอาวุธในการแข่งขันในตลาดโลก แต่อีกมุมหนึ่งก็คือด้วยประชากรที่มากกว่า 1,300 ล้านคนนั้น สินค้าผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ จะส่งเข้าสู่ตลาดภายในประเทศเป็นหลัก และยังไม่เป็นถือว่าจะมีผลกับอัตราการส่งออกของประเทศอื่นๆ เท่าใดนัก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นอัตราการนำเทคโนโลยีด้านอินเทอร์เน็ต และเทคโนโลยีสื่อสารมาใช้งานในประเทศจีนนั้น มีการเติบโตที่สูงมาก และเติบโตต่อเนื่องมาโดยตลอด ซึ่งเป็นการเน้นย้ำว่า อินเทอร์เน็ตกับการเพิ่มผลผลิต และประสิทธิภาพในการทำงานนั้น เป็นสิ่งที่จำเป็นและหลีกเลี่ยงไม่ได้เสียแล้ว ขึ้นอยู่กับว่าจะมีการวางกลยุทธ์ในการใช้งานอย่างไร และความพร้อมในการใช้งานได้รวดเร็วเพียงใด

ที่มา:http://www.cisco.com/web/TH/technology/internet_productivity.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น